นางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เเละกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว เปิดเผยว่า ในปี 2566 ดีมานด์รวมในตลาดโลกยังชะลอตัว โดยบริษัทคาดว่ายอดขายไม่น่าจะเติบโตมากนัก หรือคาดว่าจะอยู่ที่ราว 2,200 ล้านบาท หรืออาจจะทำได้ใกล้เคียงกับปี 2565 ที่ผ่านมามียอดขาย 2,155 ล้านบาท แต่ในปีนี้บริษัทจะเน้นการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้กลับมาอยู่ที่ระดับ 3-5% จากควบคุมต้นทุนของวัตถุดิบ ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลงจากปีก่อน ซึ่งมีความผันผวนด้านราคาค่อนข้างมาก ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังต้องจับตามองอย่างต่อเนื่องในปีนี้
** วัตถุดิบพุ่งสูงขึ้น
ขณะที่ในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทมีอัตรากำไรปรับตัวลดลงเนื่องจากธุรกิจเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าในส่วนของราคาเรซิ่น และสารเติมแต่ง หรือ Plasticizer ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการของสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยหลักต่อราคาเม็ดพลาสติกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2565
สำหรับในช่วงที่ผ่านมา บริษัทโอนย้ายกิจการธุรกิจผลิตภัณฑ์กาว ผลิตภัณฑ์ยาแนว และผลิตภัณฑ์ดีไอวาย ไปยังบริษัท เอดีบี ซีแลนท์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ และถือหุ้น 100% เพื่อแยกธุรกิจและการดำเนินงานออกอย่างชัดเจน สำหรับบริษัท เอดีบี ซีแลนท์ จํากัดมีแผนจะขยายการส่งออกไปต่างประเทศให้มากขึ้น อาทิ ในภาคใต้แอฟริกาและตะวันออกกลาง ปัจจุบันบริษัทขยายตลาดส่งออกไปค่อนข้างมาก ตามดีมานด์หรือความต้องการใช้ธุรกิจผลิตภัณฑ์กาวยาแนว
และก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงนามขยายตลาดกาว PU สำหรับบรรจุภัณฑ์ในตลาดประเทศไทย กับ บริษัท PRAISE VICTOR INDUSTRIAL CO.,LTD (ไต้หวัน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ PU โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ซึ่งมีปริมาณการใช้เติบโตขึ้นอย่างมากในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ซองฟอลย์บรรจุขนม ซองซิปล็อกบรรจุกาแฟ ซองพลาสติกและซองลามิเน็ตต่างๆ โดยบริษัท PVI จะเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์และนำเสนอความรู้เชิงเทคนิค และ ADB จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการตลาด และการจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย
** ผลิตถุงย่อยสลาย
ขณะที่การจำหน่ายพลาสติกคอมปาวด์ หรือ PVC ในครึ่งปีแรก 2566 อาจจะชะลอตัว เพราะคาดโครงการสายไฟหรือโปรเจ็กต์จากภาครัฐยังรอความชัดเจนจากการเลือกตั้ง ดังนั้นคาดโปรเจ็กต์สายไฟ หรือการขาย PVC กลุ่มสายไฟจะเห็นความชัดเจนครึ่งปีหลัง 2566 หรือในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ทางด้านธุรกิจ BIO ล่าสุดบริษัทได้ผลิตถุงย่อยสลาย โดยบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนของสินค้าประเภทนี้มากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างการเติบโตและตอบแทนให้ระดับสูง อย่างไรก็ตามยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต